top of page
Search

EP. 8 เต้าหู้ คีโตทานได้ไหม?

เต้าหู้ คือ อะไร?

เต้าหู้เป็นเต้าหู้ถั่วเหลือง ถั่วเหลืองจะกลายเป็นนมถั่วเหลืองนมเป็นคอทเทจชีสและอัดเป็นก้อนสีขาวแล้ว


เต้าหู้ครึ่งถ้วย (ประมาณ 124 กรัม) ประกอบด้วย

- แคลอรี่ 94

- โปรตีน 10 กรัม

- ไขมัน 6 กรัม

- คาร์บ 2 กรัม (คาร์บสุทธิ 1.5 กรัม)

- เต้าหู้ยังมีธาตุเหล็ก แคลเซียม และแมกนีเซียม

น่าเสียดายที่แม้จะมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตต่ำ แต่ผู้เชี่ยวชาญบางคนก็ไม่แนะนำให้กินเต้าหู้และนี่คือเหตุผล


ทำไมบางคนถึงหลีกเลี่ยงเต้าหู้

เต้าหู้ทำมาจากถั่วเหลืองและมีบทบาทสำคัญในอาหารในเอเชีย อย่างไรก็ตามถั่วเหลืองที่ผ่านกรรมวิธีและดัดแปลงพันธุกรรมมักพบมากที่สุดในประเทศของเรา การดัดแปลงพันธุกรรมนี้ไม่เพียง แต่ทำให้คุณภาพของเต้าหู้ลดลงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองอื่น ๆ ด้วยเช่นนมถั่วเหลืองซีอิ๊วแป้งถั่วเหลืองและผงโปรตีนถั่วเหลือง

นอกจากนี้ยังใช้ถั่วเหลืองดัดแปลงพันธุกรรมในการผลิตน้ำมันถั่วเหลืองซึ่งเต็มไปด้วยไขมันที่เป็นอันตราย นี่คือเหตุผลที่แนะนำให้กินน้ำมันงา มะพร้าว, น้ำมันมะกอก อะโวคาโด หรือ MST

นอกจากการตัดแต่งพันธุกรรมในถั่วเหลืองแล้วยังมีอีกปัจจัยหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับเต้าหู้นั่นคือ xenoestrogens และ phytoestrogens ที่มีความเข้มข้นสูง


xenoestrogens และ phytoestrogens คืออะไร

Xenoestrogens เป็นสารประกอบที่พบในอาหารบางชนิดที่เลียนแบบฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายของคุณ เมื่อย่อยแล้ว xenoestrogens จะจับกับตัวรับเอสโตรเจนในเซลล์ของคุณและเข้าควบคุมหน้าที่ของเอสโตรเจน น่าเสียดายที่ xenoestrone ไม่ใช่สารประกอบเดียวที่กระตุ้นฮอร์โมนเอสโตรเจน

ไฟโตเอสโทรเจนเป็นสารอาหารที่คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนอีกรูปแบบหนึ่งที่พบในถั่วเหลืองและพืชอื่น ๆ แม้ว่าฮอร์โมนจะมีบทบาทสำคัญในร่างกายของคุณ แต่ฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มากเกินไปก็อาจเป็นอันตรายได้


การวิจัยแสดงให้เห็นว่าฮอร์โมนเอสโตรเจนในระดับสูง สามารถส่งผลดังนี้

- ส่งเสริมการปรากฏตัวของซีสต์เนื้องอกและเนื้องอก

- เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งเต้านม

- เพิ่มน้ำหนักและป้องกันการสูญเสียน้ำหนัก

- เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดจึงเพิ่มข้าวเบาหวานชนิดที่ 2


เนื่องจากสารประกอบทั้งสองนี้สามารถทำหน้าที่เป็นเอสโตรเจนและขัดขวางการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนที่แท้จริงในร่างกายของคุณเต้าหู้จึงไม่เหมาะสำหรับทุกคน





ตามหลักเต้าหู้​ 100g​ จะมี​ Net​ Carbs 1.5g. จึงไม่ทำให้เราหลุดคีโตซิส​


แต่คีโตจะทานแต่เฉพาะเต้าหู้หรือ​ ผลิตภัณฑ์​จากถั่วเหลือง​ที่ผ่านการหมัก (Fermentation)​ แล้วเท่านั้น​ เช่น​ มิโซะ,​ เต้าหู้เหม็น, นัตโตะ, เต้าฮู้ยี้, เต้าเจี้ยว, ซีอิ้ว​ขาว​ เป็นต้น และที่เราไม่ควรทาน​เต้าหู้​ หรือ​ผลิตภัณฑ์​จากถั่วเหลือง​ที่ไม่ผ่านการหมัก​ เช่น​ เต้าหู้​สด, เต้าหู้​เหลือง, เต้าหู้แข็ง, หรือน้ำเต้าหู้​ เพราะ​เต้าหู้​ หรือผลิตภัณฑ์​จากถั่วเหลืองอุดมไปด้วย​สาร​ ซิโนเอสโตรเจน​ (Xenoestrogens)​ และ​สาร​ ไฟโตเอสโตรเจน​ (Phytoestrogens)​จำนวนมาก​ ซิ่ง​เจ้าสารซีโนเอสโตเจน​นั้น มีโครงสร้าง​ที่​เหมือน​ หรือเลียนแบบ​ฮอร์โมน​เอสโตรเจน​ แต่มันไม่ใช่ฮอร์โมน​ธรรมชาติ​ที่​ร่างกาย​เราสร้างขึ้น

เมื่อเราทานเต้าหู้​เข้าไป​ เจ้าสารซิโนเอสโตรเจน​ จะเข้าไปโจมตี​ Estogen Receptors และเข้าไปแทนที่​ ฮอร์โมน​เอสโตรเจน​ในธรรมที่เราสร้างขึ้น​

เมื่อฮอร์โมน​เอสโตรเจน​มีมากเกินไป​ (ไม่สมดุล)​ จึงเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคร้ายแรงต่างๆ เช่น​ ซีสต์, เนื้องอก​ ที่เต้านมหรือระบบสืบพันธุ์​ เป็นสาเหตุให้เกิดโรคมะเร็ง​เต้านม, มะเร็ง​ในระบบสืบพันธุ์​ ทำให้ร่างสะสมไขมันมากขึ้น​ (น้ำหนักขึ้น)​ ทั้งยังไปรบกวนระบบเผาผลาญ​ไขมัน​ และระบบอินซูลิน​

ทำให้ระดับน้ำตาล​ในเลือดเพิ่มสูงขึ้น​ (High​ Blood​ Sugar)​ โดนเฉพาะผู้ป่วยเบาหวานประเภท2​ (Type​ 2​ Diabetes)​

เพราะฉะนั้น​เต้าหู้หรือผลิตภัณฑ์​จากถั่วเหลือง​ที่ไม่ผ่านการหมัก​จึงไม่เหมาะสำหรับ​คีโตอย่างยิ่ง​


ด้วยรักและไขมัน

Health Me Ketogenic

 
 
 

Opmerkingen


Post: Blog2_Post

095-2546611

©2019 by Health Me Ketogenic. Proudly created with Wix.com

bottom of page